เมนู

พระเจ้ากรุงมิลินท์ปิ่นประชากร ได้ทรงฟันก็โสมนัสตรัสว่า กลฺโลสิ กล่าวมานี้สมควร
แล้วพระผู้เป็นเจ้า
สมุททปัญหา คำรบ 14 จบเท่านี้

สุขุมัจเฉทนปัญหา ที่ 15


สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการตรัสถามว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่
พระนาคเสนผู้เจริญ สิ่งอันใดอาจจะตัดซึ่งสิ่งอันสุขุมได้
พระนาคเสนจึงวิสัชนาแก้ไขว่า สิ่งที่จะตัดซึ่งสิ่งอันสุขุมนี้มีอยู่ ขอถวายพระพร
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชากรมีพระราชโองการตรัสถามว่า ภนฺเต นาคเสน
ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้านาคเสนผู้เจริญด้วยปรีชา สิ่งซึ่งสุขุมกว่าสิ่งทั้งปวงนี้จะได้แก่สิ่งใด
พระนาคเสนจึงวิสัชนาแก้ไขว่า มหาราช ดูกรบพิตรพระราชสมภาร สิ่งซึ่งสุขุมอื่น ๆ
นั้น จะสุขุมเท่าพระสัทธรรมหามิได้ แต่ว่าธรรมทั้งปวงนั้นจะสุขุมสิ้นทีเดียวหามิได้ ธรรมที่
หยาบก็มี ธรรมที่ละเอียดก็มี แต่ที่ว่าธรรมสุขุมนี้เป็นชื่อแห่งธรรม ที่เรียกว่าธรรมอันสุขุม เมื่อ
จะจัดออกไปก็เป็นธรรมสุขุมบ้าง เป็นธรรมอันหยาบก็มีบ้าง เป็นสองสถานฉะนี้ แต่สิ่งที่จะตัด
ธรรมทั้งปวงให้ขาดได้ ก็อาศัยโลกุตรปัญญาจึงจะตัดขาด แต่กำลังทุติยปัญญา คือโลกิยปัญญา
น สกฺกา มิอาจจะตัดได้ ขอถวายพระพร
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ประชากร ได้ทรงฟังก็สโมสรโสมนัสตรัสว่า กลฺโลสิ สมควร
แล้ว พระผู้เป็นเจ้า
สุขุมมัจเฉทนปัญหา คำรบ 15 จบเท่านี้

ปัญญาวิเสสปัญหา ที่ 16


สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการตรัสถามว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่
พระนาคเสนผู้ปรีชาญาณ ปัญญานี้อยู่ไหน
พระนาคเสนจึงแก้ไขว่า ปัญญาจะได้ปรากฏว่าอยู่ที่ไหนหามิได้
พระเจ้ามิลินท์ปิ่นกษัตริย์ตรัสว่า ถ้ากระนั้นปัญญาหามีไม่นั่นแหละซิ
พระนาคเสนจึงถามว่า มหาราช ดูกรบพิตรพระราชสมภาร ลมนี้ถิ่นฐานบ้านช่องอยู่ที่
ไหนเล่าบพิตร เมื่อพระนาคเสนถามฉะนี้
พระเจ้ากรุงมิลินท์ภูมินทราธิบดี มีพระราชโองการตรัสว่า ภนฺเต ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า
ผู้เจริญ ลมนี้เปล่า หาเนื้อหาตัวมิได้ จะได้ปรากฏว่าอยู่ที่ไหนหามิได้
พระนาคเสนจึงวิสัชนาแก้ไขว่า มหาราช ดูกรบพิตรผู้ประเสริฐในราชสมบัติ กระนั้น
ลมที่พัดก็ไม่มี เมื่อพระนาคเสนแก้ไขมาฉะนี้
พระเจ้ากรุงมิลินท์ภูมินทราธิบดีก็เห็นด้วย จึงมีพระราชโองการตรัสว่า กลฺโลสิ สมควร
แล้วพระผู้เป็นเจ้า
ปัญญาวิเสสปัญหา คำรบ 16 จบเท่านี้

วิญญาณาทีนัง นานัตถภาวปัญหา ที่ 17


สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการตรัสถามว่า ภนฺเต นาคเสน
้ข้าแต่พระนาคเสนผู้เจริญด้วยปรีชา อิเม ธมฺมา อันว่าธรรมทั้งหลายนี้ คือปัญญาก็ดี คือ
วิญญาณก็ดี คือชีโวก็ดี อันมีในภูตกายนี้ นานตฺถา มีอรรถต่าง ๆ มีพยัญชนะต่าง ๆ หรือ
ว่ามีอรรถอย่างเดียว แต่มีพยัญชนะนั้นต่างกันประการใด
พระนาคเสนจึงวิสัชนาแก้ไขว่า มหาราช ดูกรบพิตรพระราชสมภาร วิชานลกฺขณํ
วิญญาณมีลักษณะรู้ต่าง ๆ ปัญญานั้นมีลักษณะรู้รอบคอบ จะได้กำหนดว่าชีวธรรมมีในภูตกาย
หามิได้